VPN โดยสังเขป “ที่ว่า มุด มันเป็นยังไง”

Sakul Montha
3 min readOct 21, 2020

--

สวัสดีผู้อ่านทุกคนครับ ช่วงนี้กระแสการใช้งาน VPN มาแรง มาแรงจัดตอน Covid ช่วง Work from home เพราะจำเป็นอย่างมากในการ Access เข้าไปเหมือนนั่งทำงานใน Office สำหรับคนสาย Tech นี่ไม่ถือเป็นเรื่องใหม่ เพราะ VPN นั้นมีกันมานานมาก ๆ แล้ว ส่วนสำหรับสายอื่น นั้นก็อาจจะมีที่รู้จัก หรือไม่รู้จัก เคยใช้ หรือไม่เคยใช้ ที่เคยใช้ก็อาจจะใช้จากการต้องการเข้าเว็บไซต์ บางอย่าง หรือใช้ในการเล่นเกมส์ วันนี้ผมจะพาทุกท่านไปรู้จักกับ VPN ให้มากขึ้น ว่าไอที่บอกว่า “มุด” มันเป็นยังไงกันนะ

VPN

VPN หรือ Virtual Private Network หรือ เครือข่ายส่วนตัวเสมือน (แปลไทยอย่างหลอน) เป็นเครื่องมือตัวนึง ที่จะเข้ามาช่วยเราในหลาย ๆ ด้านในการเชื่อมต่อกันระหว่าง Client — Server ก่อนที่เราจะไปรู้จัก VPN ผมอยากให้ทุกท่านเข้าใจการทำงานของการร้องขอ ระหว่าง Client ไปหา Server กันก่อนว่า ท่าปกติที่เราใช้ในชีวิตประจำวันนั้น เป็นอย่างไร

เริ่มต้นจาก User หรือ Client หรือ เรานี่แหละ ต้องการจะท่องเว็บ ไป Google ละกัน เมื่อเรา Enter ปุ๊บ มันก็จะสร้าง Package แล้ววิ่งไปหา Google ใช่มะ ช้าก่อน!!
ก่อนจะไปถึง Google ได้ เราต้องมีอะไรครับ? เราต้องมี Internet ไงเล่าาา!!! ไม่งั้นมันก็ไปไหนไม่ได้ใช่มะ ทีนี้มันก็ขึ้นอยู่กับ Internet ที่เราใช้แล้ว ผมตี๊ต่างว่า ใช้ Internet ของ AIS ละกัน อ่าา มี Internet แล้ว ไปต่อ… Package ที่เราสร้างนั้น จะวิ่งไปหา AIS, TRUE, Dtac, 3BB หรืออื่น ๆ ที่เราใช้บริการ ซึ่งเราจะเรียกมันว่า ISP (Internet service provider) หรือผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตนั่นเอง ISP จะมี Route อยู่ทั้วโลก อยากไปเว็บไหนเดี๋ยว ISP เค้าจะจัดการให้เราเอง ถ้าในประเทศจะเป็น “nix” ถ้านอกประเทศจะเป็น “iig” แลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ISP มีหน้าที่จัดการ Routing ว่าจะให้ไปทางไหนได้ดีที่สุด เพื่อให้ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นเจ้าไหน และจะลึกเกินไปเอาเป็นว่าเรียก ISP จบ จากนั้น ISP ก็จะทำหน้าที่ดูว่าเราจะวิ่งไปไหน อ้อ ไป Google นี่เอง ISP ก็จะมีพวก Gateway และอื่น ๆ ต่าง ๆ นานา แล้วส่งไปถึงปลายทาง นั่นก็คือ Google จบแล้ว แค่นี้เองเห็นมั้ยง่ายจะตาย…

ถ้ายังงงอยู่ ให้คิดว่าเราเขียนจดหมายหาแฟนครับ เวลาเราเขียนจดหมายหาแฟนต้องทำยังไง… ก็เขียนข้อความในจดหมาย แล้วจ่าหน้าซองใช่มะ จดหมายมันไปเองไม่ได้ เราก็ต้องให้ ไปรษณีไง ไปรษณีเค้ามีสถานีบริการอยู่ทั่วประเทศ จะส่งช้าหรือเร็ว ก็ขึ้นอยู่กับบริเวณนั้น ๆ มีปริมาณ มากน้อยแค่ไหน บางครั้งส่งอ้อมอาจจะมีผระโยชน์กับผู้มากว่า อันนี้เป็นเรื่องของ ไปรษณี ไม่เกี่ยวกับเรา แค่นี้แหละ…

จะเห็นว่าที่พูดมายาว ๆ ทั้งหมดนี่ ยังไม่เห็นเกี่ยวอะไรกับ VPN เลย ใช่แล้วครับยังไม่เกี่ยวเลยสักติ๊ดดด มันจะเริ่มมาเกี่ยวตอนที่

— ปลายทางไม่อนุญาตให้ต้นทางที่มาจาก ISP ตรง ๆ เข้ามาได้ อาจจะเพราะไม่มั่นใจว่าคนที่ Request เข้ามานั้นเป็นใคร หรืออาจจะมีอะไรซ้อนเร้นอยู่รึเปล่า ต้องเข้าผ่าน VPN เท่านั้น หลาย ๆ ท่านน่าจะเริ่มคุ้นละ จากการต่อ VPN ก่อนถึงจะเข้าเว็บบริษัทได้…
VPN จะมาเกี่ยวอีกเมื่อ ISP อาจจะ Block ปลายทางที่เราจะไป ไม่ให้เข้า เช่นเว็บอะไรฮับ ๆ บางเว็บ หรือเว็บที่ถูกหน่วยงานแบนห้ามเข้า เจ้า VPN ก็จะสามารถช่วยเราได้ หรือที่เรียกกันว่า “มุด”, “ลงท่อ” นั่นแหละ…
— อีกสักตัวอย่างนึง VPN นี่จะสามารถช่วยให้เราไปถึงปลายทางได้จะเร็ว หรือช้า ขึ้นอยู่กับ Server ที่ตั้งอยู่ด้วย เช่นถ้าเราอยู่ในไทย Server ปลายทางที่เราจะไป อยู่ไทย แต่เราเข้า VPN อเมริกา แบบนี้จะยิ่งทำให้ช้า เพราะเราข้ามทวีปไปทวีปมา หรือบางครั้งเราไปต่อ VPN ก็อาจจะได้ข้อมูลที่เร็วขึ้นเพราะ Bandwidth ที่เราวิ่งผ่านนั้นบางครั้งอาจจะไม่ต้องวิ่งไปแย่งใช้กับคนอื่น อะไรทำนองนี้

หลายท่านอาจจะเริ่มสงสัยละ เอ๊ะ แล้วมันมีที่มาที่ไปยังไงนะ ทำไมเหมือนมันมีได้หลายแบบจัง เราไปดูกัน หลักการทำงานของมันก็คือ ก่อนหน้านี้เราจะไป Google ใช่มะ แต่ ISP ของเราดัน Block ไม่ให้เราเข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ที่มันขึ้นหน้าจอที่คุ้นเคยประมาณนี้

หน้าตาที่หลายท่านคุ้นเคย

ถ้าจำกันได้ ผมได้เคยบอกไปข้างบนว่าตอนเราร้องขอ เราจะทำการสร้าง Package ขึ้นมาตัวนึง แล้วส่งไปหา ISP (ส่งจดหมายพร้อมจ่าหน้าซองว่าจะไปไหน) ISP จะทราบว่าเราจะไปไหน ตรงนี้แหละ ที่ทำให้เขา Block ได้ เค้าก็เอามาเทียบดูเอ้า อยู่ใน List หนิไม่ให้ไปนะ เค้าก็เด้งกลับมาหาเรา (เป็นที่มาว่า เว็บเดียวกัน ใช้ Internet บ้านบางเจ้าเข้าไม่ได้ พอต่อ 4g ของอีกเจ้าเข้าได้ซะงั้น เพราะบางทีแต่ละ ISP เค้ามี List ที่จะ Block ต่างกัน) สรุปที่เค้ารู้ เพราะเค้าดูปลายทางที่เราจะไปได้ ว่าเราจะไปไหนนั่นเอง ทีนี้ พอเราต่อ VPN ใช่มะให้คิดเสียว่า ตอนที่เรากด Google.com เนี่ย แทนที่มันจะสร้าง Package เพื่อไปบอก ISP ตรง ๆ ว่าจะไปที่นี่นะ มันกลับกลายเป็นว่า เราสร้าง Package ใน Package อีกที แล้วบอก ISP ว่า เฮ้ ๆ เราจะไปที่ Server VPN ที่เรา Connect อยู่นะแต่ข้างในเรายังไม่ได้บอก ISP ว่าสุดท้ายเราจะไปไหน ISP แกะไม่ได้เป็นเรื่องของเรากับ VPN เมื่อของมาถึง VPN ใช่มะ VPN ก็ทำการแกะซอง ว่าอ้อ เราจะไป Google.com นะ ก็ส่งของต่อไปยัง Google นั่นเอง เป็นที่มาว่าทำไมเรา “มุด”, “ลงท่อ” ได้ เย้!!!

จากภาพจะเห็นว่ามีแทรก VPN เพิ่มเข้ามา เป็นการบอก ISP ว่าเราจะไป ปลายทางคือ VPN นะ ISP ก็ปล่อยให้เราไปแต่โดยดี

Conclusion

VPN มันก็คือท่อ ที่มีการ Encapsulation และ Decapsulation ทั้งหัวทั้งท้ายอีกที

ส่วน ISP พูดแบบง่าย ๆ ก็คือมันต่อกับปลายทาง ถ้าเค้าจะบล็อกก็แค่ตัดการเชื่อมต่อปลายทางออก ถึงได้เห็นว่าบางเจ้าเข้าได้ บางเจ้าเข้าไม่ได้ VPN ก็เหมือนเราไปต่อยอด ใช้ ISP ของเจ้าอื่นอีกที

หวังว่าผู้อ่านจะเข้าใจการทำงานของ VPN คร่าว ๆ มากขึ้นนะครับ การใช้ VPN ก็มีข้อควรระวังด้วย การใช้ VPN ไม่ได้หมายความว่าปลอดภัยหายห่วง 100% นะครับ ถ้าเขาจะจับ แค่สงสัยเขาก็จับ อะไม่เกี่ยว!! ก็คือถึงแม้ว่าผู้ให้บริการ VPN หลาย ๆ เจ้าอาจจะบอกว่า ไม่มีการเก็บที่ Server ตัวเอง อันนี้ก็ต้องมาดูหลักการของแต่ละผู้ให้บริการอีกที VPN บางเจ้าก็อาจจะน่ากลัวว่าที่คิด นอกจากจะเก็บที่ที่เราไปแล้ว บางครั้งก็อาจจะแอบเก็บข้อมูลสำคัญบางอย่างของเราด้วย ยังดีที่เรายังมี SSL ที่ช่วยได้บ้าง แต่ก็นั่นแหละครับ พยายามใช้ของดี ๆ อย่าใช้ของที่มันน่ากลัว

ถ้าแค่จะมุด ยังมีวิธีอื่นอีกที่นอกเหนือจาก VPN นะครับ ไม่ใช่ว่าเราจำเป็นทำต้องวิธีนี้อย่างเดียว

ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

--

--

Sakul Montha
Sakul Montha

Written by Sakul Montha

Chief Product Officer, a man who’s falling in love with the galaxy.

No responses yet